แนวปฏิบัติในการกู้ยืมเงินกองทุน กรอ.และการส่งเอกสารสัญญากู้ยืมเงิน
กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
ประจำปีการศึกษา 2553 ให้กับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย
แนวปฏิบัติในการกู้ยืมเงินกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
กลุ่มที่ 1 นิสิต หรือนักศึกษาที่เคยได้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน ในปีการศึกษา 2549 ตามระยะเวลาปกติที่กำหนดไว้ในแต่ละหลักสูตร ทั้งนี้ ไม่เกินปีการศึกษา 2554 (สำหรับหลักสูตร 6 ปี) สามารถขอรับทุนได้ไม่เกินปีการศึกษาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละหลักสูตร กล่าวคือ หลักสูตร 4 ปี ให้กู้ยืมได้ไม่เกินปีการศึกษา 2552 หลักสูตร 5 ปี ให้กู้ยืมได้ไม่เกินปีการศึกษา 2553 และหลักสูตร 6 ปี ให้กู้ยืมได้ไม่เกินปีการศึกษา 2554 โดยไม่จำเป็นต้องขอรับทุนครบทุกปีการศึกษา
กลุ่มที่ 2 นิสิต หรือนักศึกษาระดับ ปวส. อนุปริญญาและปริญญาตรี ที่เคยได้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืน ในปีการศึกษา 2551 และปีการศึกษา 2552 ในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนร่วมกับภาคเอกชนเป็นลำดับแรก เป็นมาตรการของรัฐเพื่อผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาขาดแคลนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ สามารถขอรับทุนได้ตามจำนวนปีที่กำหนดไว้ในแต่ละหลักสูตร กล่าวคือ หลักสูตร 4 ปี สามารถขอรับทุนได้ 4 ปี โดยไม่จำเป็นต้องขอรับทุนติดต่อกันทุกปีการศึกษา
แนวปฏิบัติในการส่งเอกสารสัญญากู้ยืมเงินกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
การลงวันที่หนังสือมอบอำนาจในสัญญากู้ยืมเงินกองทุน กรอ. ดังนี้
1. กลุ่มผู้กู้ยืมกรอ. ที่กู้ยืมครั้งแรกในปีการศึกษา 2549 หนังสือมอบอำนาจลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551
2. กลุ่มผู้กู้ยืมกรอ. ที่กู้ยืมครั้งแรกในปีการศึกษา 2551 และปีการศึกษา 2552 หนังสือมอบอำนาจลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2551
สถานศึกษาจัดเรียงเอกสาร ดังนี้
1. ใบนำส่งเอกสารกองทุน กรอ. (กยศ.107 โดยอนุโลม) ต้องมีลายมือชื่อผู้มีอำนาจของสถานศึกษาลงนาม ห้ามใช้การถ่ายสำเนา หรือตรายาง
**หมายเหตุ** ใบนำส่งเอกสารสัญญาฯ 1 ชุด ต่อจำนวนเอกสารในข้อ 3 ประมาณ 50 ชุด
2. ทะเบียนคุมการส่งสัญญากู้ยืมกองทุน กรอ. (กยศ.106 โดยอนุโลม)
3. สัญญากู้ยืมเงินฯ พร้อมเอกสารประกอบสัญญาต่าง ๆ ดังนี้
3.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
3.2 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ค้ำ
3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนโดยชอบธรรม
(กรณีผู้แทนโดยชอบธรรมไม่เป็นคนเดียวกับผู้ค้ำประกัน)
**หมายเหตุ** ผู้เกี่ยวข้องในเอกสารต้องลงนามครบถ้วนเรียบร้อย โดยการลงลายมือชื่อต้องเป็นแบบเดียว และเหมือนกันกับสัญญากู้ยืมเงินฯ
4. นำเอกสารตามข้อ 3 รวมเป็นชุด/คน โดยเรียงตามลำดับรายชื่อในข้อ 2
5. นำเอกสารตามข้อ 1-3 รวมเป็นชุด และตรวจสอบเอกสารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว จัดส่งเอกสารไปยัง บมจ.ธนาคารกรุงไทย(สำนักงานใหญ่)เท่านั้น ตามที่อยู่ดังนี้
ส่ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย ฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ อาคารสุขุมวิท ชั้น 14
เลขที่ 10 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
กรุงเทพฯ 10110
6. หากสถานศึกษามีข้อสงสัย หรือปัญหาเกี่ยวกับการส่งเอกสารสัญญา สามารถติดต่อไปที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย
ส่วนงาน Help Desk โทรศัพท์ 0-2208-8699 หรือ งานตรวจสอบสัญญา โทรศัพท์ 0-2208-8630 หรือ 0-2208-8634-6
หมายเหตุ :
1. สำหรับผู้กู้ยืม กรอ. ที่กู้ยืมครั้งแรกปีการศึกษา 2551 และ 2552 ในสาขาวิชาขาดแคลนนั้น ปีการศึกษา 2553 จะต้องขอกู้ยืมในสาขาวิชา และในสถานศึกษาตามใบอนุมัติเท่านั้น
2. ให้สถานศึกษาใช้บัญชีออมทรัพย์ของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เพื่อรับโอนเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา โดยระบุหมายเลขบัญชีไว้ที่ใบนำส่งเอกสาร กยศ.107 และแบบลงทะเบียนเรียน /แบบยืนยันฯ
|